สุภาพบุรุษเนื้อหอม "ธชตวัน" 29 ปีที่ไม่เคยว่างงาน

คุณสมบัติหลายอย่างในตัวที่เรียกได้ว่าเป็นไอเทมพิเศษ สำหรับ ธชตวัน ศรีปาน ทำให้ไม่เคยมีปีไหนเลยตลอด 3 ทศวรรษ บนถนนลูกหนัง ที่เขาต้องพักผ่อนอยู่ที่บ้าน

นักเตะผิวคล้ำจากเมืองสระบุรี ที่ครั้งแรกเคยถูกพ่อตั้งใจให้ชื่อว่า "ปริญญา" เริ่มค้าแข้งเป็นครั้งแรกกับสโมสรในตำนานที่หายสาบสูญไปแล้วอย่าง "ชาววัง" ราชวิถี เมื่อปี 1989 และในอีก 4 ปีต่อมา เขาคือขุนพลทีมชาติไทย ผู้ถูกบรรจุอยู่ในตำนานที่ใครๆต่างเรียกขานกันว่า "ดรีมทีม" ในเวลาต่อมา

หลัง ราชวิถี มอบโอกาสในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ให้กับเด็กหนุ่มที่ชื่อว่า "ตะวัน ศรีปาน" เขาใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์ที่นี่อยู่ 2 ปี ก่อนย้ายมาสู่สโมสรธนาคารกรุงเทพฯ อันเป็นใบเบิกทางสู่การเป็นนักเตะทีมชาติไทย และโยกย้ายไปหาประสบการณ์ในต่างแดนกับ แซมบาวัง เช่นเดียวกับสตาร์ดังหลายคนในยุคนั้น ที่นิยมไปขุดทองลีกย่านอาเซียนซึ่งกำลังเฟื้องฟูสุดๆ จากแซมบาวัง ก็ย้ายสู่ ฮองอันห์ยาลาย และกลับมาจบที่ บีอีซี เทโรศาสน เป็นสโสรสุดท้าย

ช่วงเวลารวม 20 ปี เขาไม่ใช่นักเตะจอมพเนจร ตะวัน ศรีปาน ใช้ชีวิตกับสโมสรต่างๆ เพียง 5 สโมสรเท่านั้น โดย แซมบาวัง คือสโมสรที่ผูกใจให้เขาอยู่รับใช้ได้นานที่สุด ถึง 6 ปี แม้จะไม่สามารถคว้าแชมป์มาครองแชมป์ร่วมกับทีมได้ ซึ่ง ณ ที่นี่ เขาคือตำนานคนหนึ่ง ที่ชาวสิงคโปร์ยอมรับ ไม่ต่างจากเพื่อนซี้อย่าง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่ถูกชาวเวียดนามกล่าวขานถึง และที่สิงคโปร์ เขายังได้ร่ำเรียนตำราโค้ช เป็นครั้งแรก อีกด้วย โดยได้รับซีไลเซนส์ มาประดับตัว

บั้นปลายชีวิตค้าแข้งที่ บีอีซี เทโรศาสน ในปี 2007 ตะวัน ศรีปาน ย้ายจากฮองอันห์ยาลาย กลับมาเมืองไทยด้วยวัย 35 ปี และเขาอยู่ที่นี่ 3 ฤดูกาล พร้อมสร้างตำนานบทใหม่ ด้วยการเป็นเฮดโค้ชแอนด์เพลเยอร์ ในเลกที่ 2 ของฤดูกาล 2009 เสียบแทนที่ คริสตอฟ ลาร์รูห์ ซึ่งพาทีมจบเลกแรกด้วยอันดับ 5 โดยตะวัน ศรีปาน สามารถพามังกรไฟ จบตามเป้าได้ที่อันดับ 4 พร้อมเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ ทว่าไปแพ้จุดโทษต่อ การท่าเรือ อย่างน่าเสียดาย

จบฤดูกาล 2009 ตะวัน ศรีปาน ตัดสินใจแขวนสตั๊ดเพื่อรับหน้าที่เฮดโค้ชมังกรไฟอย่างเต็มตัว พร้อมเปลี่ยนชื่อมาเป็น ธชตวัน ตามความตั้งใจที่อยากเปลี่ยนมาเนิ่นนานตามความเชื่อ แต่ผลงานการเป็นโค้ชอย่างทางการปีแรกของเขาไม่สวยงาม ประสบการณ์คุมทัพบนลีกสูงยังไม่แกร่งพอ ทำให้เขาตัดสินใจลาออกหลังจบเลกแรก และว่างงานไปนานครึ่งฤดูกาล ... นี่คือช่วงสูญญากาศ ที่ว่างเว้นนานที่สุดในชีวิตของเขา

อย่างไรก็ตาม ในปลายปีนั้นเอง สระบุรี เอฟซี ทีมบ้านเกิดของ ํธชตวัน ศรีปาน ที่กำลังแข่งขันดิวิชั่น 2 รอบแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ทำการดึงตัวเขามารับไม้ต่อจาก ชูศักดิ์ ศรีภูมิ และสามารถคว้าแชมป์ดิวิชั่น 2 เหนือ ระยอง เอฟซี ตีตั๋วขึ้นมาสู่ลีกดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จในปีดังกล่าว ซึ่ง กัลฟ์ สระบุรี เอฟซี นี่เอง คือสถานที่บ่มเพาะฝีมือของอดีตกองกลางทีมชาติไทยรายนี้อย่างแท้จริง โดยเขาปลุกปั้นทีม "ขุนศึก" อยู่ในดิวิชั่น 1 นาน 3 ฤดูกาล จนสามารถคว้าตั๋วเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก พร้อม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี และ ราชนาวี ได้สำเร็จในปี 2015

แต่การคุมทีมลุยไทยลีกแบบเต็มตัวเป็นครั้งที่ 2 ของ ธชตวัน ศรีปาน ในปี 2015 นั้นยังคงไม่สวยงามเช่นเดิม ทำให้ 8 เมษายน 2558 เป็นวันสุดท้ายที่เขาทำงานกับ กัลฟ์ สระบุรี เอฟซี โดย ธชตวัน ศรีปาน ตัดสินใจประกาศลาออกแสดงสปิริตเช่นเดียวกับที่เคยลั่นวาจาเมื่อครั้งอยู่ บีอีซี เทโรศาสน และแม้ สระบุรี เอฟซี จะรอดตกชั้นในปีนั้น แต่จากปัญหาด้านงบประมาณ บอร์ดบริหารก็ต้องขอพักทีมในภายหลัง จนหายไปจากสารบบฟุตบอลไทยอีกทีมจนถึงปัจจุบัน

เพียง 1 เดือนให้หลัง จากที่อำลาทีมบ้านเกิด ธชตวัน ศรีปาน ได้เข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ให้กับ เพื่อนตำรวจ ทีมเงินหนาในขณะนั้น แทนที่ อรรถพล ปุษปาคม ผู้ล่วงลับจากอาการป่วยขณะพาเพื่อนตำรวจไปเยือนสงขลา ยูไนเต็ด ซึ่งทีมของ สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา นักธุรกิจหนุ่ม แสดงวิสัยทัศน์สโมสรพร้อมค่าตอบแทนดึงดูดใจ ธชตวัน ศรีปาน เหนือหลายๆสโมสร รวมทั้งทีมชาติไทย ที่ธชตวัน เองยังถ่อมตนว่าประสบการณ์น้อยเกินไป ที่จะไปเป็นมือขวาให้กับ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทยขณะนั้น

ธชตวัน ศรีปาน ใช้เวลาอยู่กับสุภาพบุรุษโล่เงินจนจบฤดูกาลนั้น โดยพาทีมคว้าแชมป์ลีกพระรองแบบม้วนเดียวจบ ได้กลับคืนสู่ไทยลีกในปีเดียว แต่สโมสรประสบปัญหาการเงินจนต้องพักทีมทำให้เขาสิ้นสุดบทบาทลง แต่ก็ไม่ได้ว่างงานอีกเช่นเคยเมื่อ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ดึงเขามาสร้างตำนานบทสำคัญต่อจาก ดราแกน ทาลายิช ที่แยกทางกันกะหันหันก่อนเปิดฤดูกาล 2016 แบบทันควัน

21 มกราคม 2559 ธชตวัน ศรีปาน ย่างกรายเข้ามาสู่เอสซีจี สเตเดี้ยม ในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ และพาทีมประสบความสำเร็จทันทีด้วยการคว้าแชมป์โตโยต้า ไทยลีก และโตโยต้า ลีกคัพ(ร่วมกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด-ไม่มีนัดชิงชนะเลิศ) แต่ฤดูกาลต่อมาพวกเขาได้เพียงรองแชมป์โตโยต้า ไทยลีก ส่วนโตโยต้า ลีกคัพ คราวนี้ครองแชมป์เดี่ยว ป้องกันถ้วยไว้ได้อีกครั้ง รวมถึงยังสามารถทะลุถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายของเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อีกด้วย

จบฤดูกาล 2016 ธชตวัน ศรีปาน ได้รับการต่อสัญญาให้อยู่โยงกับกิเลนผยอง ไปอีก 2 ปี ด้วยมูลค่าสัญญารวมไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ภายใต้โจทย์สำคัญเมื่อมีการปล่อยตัวสตาร์หลายรายออกไปหาประสบการณ์ในต่างแดน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เริ่มต้นด้วยการตกรอบเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ รอบที่ 3 ก่อนจะพ่ายในลีก ทั้งในบ้านและนอกบ้าน โดยสกอร์ที่สามอ่าว สเตเดี้ยม ถือว่าเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร การถูกยิงถึง 1-6 และทำหล่นไปถึง 8 แต้ม จาก 5 นัดแรก ทำให้กุนซือรายนี้ขอลาออกเป็นครั้งที่ 3 ในชีวิต

ลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำ ธชตวัน ศรีปาน ยืนยันคำเดิมแม้ได้รับการเกลี้ยกล่อมจากผู้บริหารในวันต่อมา ทำให้ชีวิต 35 เดือนที่ทุ่งเมืองทองธานี เป็นอันปิดฉากลง เขาอำลาทีมลงจากตำแหน่งอย่างสง่างามในวันที่ 12 มีนาคม 2561 ทิ้งภาพความเป็นสุภาพบุรุษลูกหนัง ให้ลูกทีมและโค้ช นักเตะรุ่นน้อง ได้จดจำเป็นแบบอย่าง

นี่คือช่วงเวลาพักผ่อนของเขาอีกครั้ง หลังกรำศึกด้านต่างๆมานาน 29 ปี แต่อย่างไรก็อย่างนั้น ของดีมักนิ่งไม่นาน ธชตวัน ศรีปาน ไม่เคยว่างงานนานเกินครึ่งปี คงต้องติดตามกันว่า สถานีต่อไปของกุนซือวัย 46 ปี คนนี้ คือที่ใด

ขอบคุณภาพจาก ผู้จัดการ , เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด , สยามกีฬา

ความคิดเห็น